มนุษย์เงินเดือนมีรายได้ที่เท่าๆ กันทุกเดือน ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะหมดไปกับค่าใช้จ่ายต่างๆ เรียกได้ว่าแทบจะเดือนชนเดือน จึงเกิดคำถามอยู่ในใจหลายๆ คนว่า “แล้วเมื่อไรจะรวย?” ซึ่งจริงๆ แล้วเป็นคำถามที่มีคำตอบครับ และคำตอบก็อยู่ไม่ไกลตัวเราๆ ชาวมนุษย์เงินเดือนอีกด้วย เอาเป็นว่าเรามาดูกันกับ 8 วิธีรวยง่ายๆ สไตล์มนุษย์เงินเดือน
1) ตั้งเป้าหมาย – ก่อนจะทำอะไรเราควรตั้งเป้าหมายให้ชัดเจนค่ะ เพื่อจะได้มองเห็นแนวทางในการเดินไปสู่เป้าหมาย กับเรื่องของความรวยก็เช่นกัน หากอยากรวยก็ต้องตั้งเป้าหมายให้ชัดเจนว่าเราต้องมีเงินเท่าไรจึงจะพอใจและ เรียกว่ารวย บางคนมีเงิน 2 ล้านก็รู้สึกว่ารวยและพอใจแล้ว แต่บางคนต้องมี 50 ล้านถึงจะรู้สึกว่ารวยและพอใจ แล้วตัวเราละคิดว่าอยากมีเงินเท่าไรถึงจะรู้สึกว่ารวย? และต้องรวยให้ได้ภายในระยะเวลากี่เดือนกี่ปี? ลองตั้งดูค่ะ
2) ออมก่อนใช้ – คนทั่วไปมักจะใช้ก่อนแล้วค่อยออม ซึ่งก็มักจะจบลงด้วยผลที่ว่า “ใช้จนไม่เหลือออม” ดังนั้น หากจะออมให้ถูกวิธีและให้มีประสิทธิภาพคือเราต้องออมก่อนใช้ โดยเมื่อเงินเดือนออก ให้แบ่งเข้าบัญชีเงินออมไว้ก่อนเลยสัก 10-30% ขึ้นอยู่กับภาระและความสามารถในการออมค่ะ
3) จดบันทึกรับ-จ่าย – เป็นการสำรวจพฤติกรรมการใช้เงินของตัวเอง ซึ่งจะช่วยให้เราสามารถตัดค่าใช้จ่ายที่ฟุ่มเฟือยออกแล้วแปลงเป็นเงินออม เพิ่มเติมเพื่อให้ถึงเป้าหมายได้เร็วขึ้นค่ะ
4) รู้จักลงทุน – การออมไว้เฉยๆ ในบัญชีออมทรัพย์ต่อสู้อัตราเงินเฟ้อไม่ไหวหรอกค่ะ ดังนั้นเราควรแบ่งเงินส่วนหนึ่งออกมาลงทุนตามความเสี่ยงที่รับได้เพื่อให้ เงินทำงานและงอกเงยค่ะ และควรลงทุนอย่าสม่ำเสมอ แต่ก่อนลงทุนก็ควรมีเงินออมเผื่อสำรองฉุกเฉินไว้ 3-6 เท่าของรายจ่ายรายเดือนก่อนนะค่ะ เผื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด เช่น อุบัติเหตุหรือลงทุนผิดพลาด จะได้มีเงินสำรองไว้รับมือค่ะ
5) หักเงินเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (PVD) ให้มากที่สุด – โดยสิทธิแล้ว ลูกจ้างอย่างเราสามารถเลือกหักเงินเข้ากองทุนฯ ได้ตั้งแต่ 2-15% ต่อเดือน ขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละบริษัท ซึ่งหากเลือกได้ ก็ควรหักเข้ากองทุนฯ ให้มากที่สุดครับ เพราะนอกจากจะถือเป็นการออมระยะยาวและนำมาลดหย่อนภาษีได้แล้วนั้น ยังได้ประโยชน์จากเงินที่นายจ้างจ่ายสมทบด้วยค่ะ เพราะนายจ้างต้องจ่ายสมทบในอัตราที่ไม่น้อยกว่าลูกจ้างค่ะ ดังนั้น ถ้าเราเลือกหักเข้ากองทุนฯ เดือนละ 10% นายจ้างก็ต้องจ่ายสมทบให้เราอย่างน้อย 10% ค่ะ
6) ใช้สิทธิประกันสังคม – หลายๆ คนมักมองข้ามสิทธิประกันสังคมไป และเห็นว่าเงินที่หักเข้ากองทุนประกันสังคมในแต่ละเดือนนั้นไม่ใช่สิ่งจำ เป็น แต่จริงๆ แล้วการใช้สิทธิประกันสังคมช่วยเราได้เยอะนะค่ะ ในเรื่องของค่าใช้จ่ายต่างๆ ทั้งในส่วนของค่ารักษาพยาบาลทั้งผู้ป่วยในและนอก ในส่วนของค่าคลอดและเลี้ยงดูบุตร รวมถึงในกรณีของการว่างงานอีกด้วยค่ะ
7) ใช้สิทธิลดหย่อนภาษีให้เต็มที่ – ได้แก่ สิทธิลดหย่อนคู่สมรส ลดหย่อนค่าเลี้ยงดูพ่อแม่/ลูก/ผู้พิการ ดอกเบี้ยสินเชื่อบ้าน เงินสะสมกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เงินสมทบกองทุนประกันสังคม ภาษีบ้านหลังแรก ฯลฯ นอกจากนี้ยังควรใช้สิทธิลดหย่อนภาษีจากการลงทุนให้เต็มที่ครับ ทั้ง LTF, RMF และประกันชีวิต เพราะนอกจากจะช่วยประหยัดภาษีได้แล้ว ยังเป็นการออมและลงทุนไปในตัวค่ะ
8) ใช้บัตรเครดิตให้เป็น – ต้องบอกว่าจริงๆ แล้วบัตรเครดิต เป็นตัวช่วยที่มีประโยชน์มากนะคะ หากใช้อย่างมีวินัยและใช้ให้ถูกวิธี เพราะมักจะมีโปรโมชั่นต่างๆ ทั้งส่วนลด ของแถม ผ่อนชำระ รวมถึงการสะสมคะแนนเพื่อนำไปแลกสินค้าหรือใช้เป็นส่วนลดเพิ่มเติม ทำให้เราซื้อของได้คุ้มค่ากว่าการใช้เงินสด นอกจากนี้ ในมุมของการลงทุน การใช้บัตรเครดิตช่วยให้เราสามารถนำเงินก้อนไปลงทุนก่อนได้นานถึง 45 วัน เช่นในกรณีของการรูดซื้อกองทุนหรือทอง โดยไม่เสียดอกเบี้ยค่ะ ทั้งนี้ก็ควรระวังการใช้เงินเกินตัวค่ะ เพราะการใช้บัตรเครดิตรูดซื้อของนั้น เงินในกระเป๋าของเรามันไม่ลงลดโดยทันที จึงทำให้หลายๆ ครั้งเราก็เผลอเรอจนกลายเป็นหนี้บัตรเครดิตได้ค่ะ
และนี่ก็คือ 8 วิธีรวยง่ายๆ สไตล์มนุษย์เงินเดือนที่นำมาบอกเล่ากันในวันนี้
ที่มา : K-Expert
1) ตั้งเป้าหมาย – ก่อนจะทำอะไรเราควรตั้งเป้าหมายให้ชัดเจนค่ะ เพื่อจะได้มองเห็นแนวทางในการเดินไปสู่เป้าหมาย กับเรื่องของความรวยก็เช่นกัน หากอยากรวยก็ต้องตั้งเป้าหมายให้ชัดเจนว่าเราต้องมีเงินเท่าไรจึงจะพอใจและ เรียกว่ารวย บางคนมีเงิน 2 ล้านก็รู้สึกว่ารวยและพอใจแล้ว แต่บางคนต้องมี 50 ล้านถึงจะรู้สึกว่ารวยและพอใจ แล้วตัวเราละคิดว่าอยากมีเงินเท่าไรถึงจะรู้สึกว่ารวย? และต้องรวยให้ได้ภายในระยะเวลากี่เดือนกี่ปี? ลองตั้งดูค่ะ
2) ออมก่อนใช้ – คนทั่วไปมักจะใช้ก่อนแล้วค่อยออม ซึ่งก็มักจะจบลงด้วยผลที่ว่า “ใช้จนไม่เหลือออม” ดังนั้น หากจะออมให้ถูกวิธีและให้มีประสิทธิภาพคือเราต้องออมก่อนใช้ โดยเมื่อเงินเดือนออก ให้แบ่งเข้าบัญชีเงินออมไว้ก่อนเลยสัก 10-30% ขึ้นอยู่กับภาระและความสามารถในการออมค่ะ
3) จดบันทึกรับ-จ่าย – เป็นการสำรวจพฤติกรรมการใช้เงินของตัวเอง ซึ่งจะช่วยให้เราสามารถตัดค่าใช้จ่ายที่ฟุ่มเฟือยออกแล้วแปลงเป็นเงินออม เพิ่มเติมเพื่อให้ถึงเป้าหมายได้เร็วขึ้นค่ะ
4) รู้จักลงทุน – การออมไว้เฉยๆ ในบัญชีออมทรัพย์ต่อสู้อัตราเงินเฟ้อไม่ไหวหรอกค่ะ ดังนั้นเราควรแบ่งเงินส่วนหนึ่งออกมาลงทุนตามความเสี่ยงที่รับได้เพื่อให้ เงินทำงานและงอกเงยค่ะ และควรลงทุนอย่าสม่ำเสมอ แต่ก่อนลงทุนก็ควรมีเงินออมเผื่อสำรองฉุกเฉินไว้ 3-6 เท่าของรายจ่ายรายเดือนก่อนนะค่ะ เผื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด เช่น อุบัติเหตุหรือลงทุนผิดพลาด จะได้มีเงินสำรองไว้รับมือค่ะ
5) หักเงินเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (PVD) ให้มากที่สุด – โดยสิทธิแล้ว ลูกจ้างอย่างเราสามารถเลือกหักเงินเข้ากองทุนฯ ได้ตั้งแต่ 2-15% ต่อเดือน ขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละบริษัท ซึ่งหากเลือกได้ ก็ควรหักเข้ากองทุนฯ ให้มากที่สุดครับ เพราะนอกจากจะถือเป็นการออมระยะยาวและนำมาลดหย่อนภาษีได้แล้วนั้น ยังได้ประโยชน์จากเงินที่นายจ้างจ่ายสมทบด้วยค่ะ เพราะนายจ้างต้องจ่ายสมทบในอัตราที่ไม่น้อยกว่าลูกจ้างค่ะ ดังนั้น ถ้าเราเลือกหักเข้ากองทุนฯ เดือนละ 10% นายจ้างก็ต้องจ่ายสมทบให้เราอย่างน้อย 10% ค่ะ
6) ใช้สิทธิประกันสังคม – หลายๆ คนมักมองข้ามสิทธิประกันสังคมไป และเห็นว่าเงินที่หักเข้ากองทุนประกันสังคมในแต่ละเดือนนั้นไม่ใช่สิ่งจำ เป็น แต่จริงๆ แล้วการใช้สิทธิประกันสังคมช่วยเราได้เยอะนะค่ะ ในเรื่องของค่าใช้จ่ายต่างๆ ทั้งในส่วนของค่ารักษาพยาบาลทั้งผู้ป่วยในและนอก ในส่วนของค่าคลอดและเลี้ยงดูบุตร รวมถึงในกรณีของการว่างงานอีกด้วยค่ะ
7) ใช้สิทธิลดหย่อนภาษีให้เต็มที่ – ได้แก่ สิทธิลดหย่อนคู่สมรส ลดหย่อนค่าเลี้ยงดูพ่อแม่/ลูก/ผู้พิการ ดอกเบี้ยสินเชื่อบ้าน เงินสะสมกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เงินสมทบกองทุนประกันสังคม ภาษีบ้านหลังแรก ฯลฯ นอกจากนี้ยังควรใช้สิทธิลดหย่อนภาษีจากการลงทุนให้เต็มที่ครับ ทั้ง LTF, RMF และประกันชีวิต เพราะนอกจากจะช่วยประหยัดภาษีได้แล้ว ยังเป็นการออมและลงทุนไปในตัวค่ะ
8) ใช้บัตรเครดิตให้เป็น – ต้องบอกว่าจริงๆ แล้วบัตรเครดิต เป็นตัวช่วยที่มีประโยชน์มากนะคะ หากใช้อย่างมีวินัยและใช้ให้ถูกวิธี เพราะมักจะมีโปรโมชั่นต่างๆ ทั้งส่วนลด ของแถม ผ่อนชำระ รวมถึงการสะสมคะแนนเพื่อนำไปแลกสินค้าหรือใช้เป็นส่วนลดเพิ่มเติม ทำให้เราซื้อของได้คุ้มค่ากว่าการใช้เงินสด นอกจากนี้ ในมุมของการลงทุน การใช้บัตรเครดิตช่วยให้เราสามารถนำเงินก้อนไปลงทุนก่อนได้นานถึง 45 วัน เช่นในกรณีของการรูดซื้อกองทุนหรือทอง โดยไม่เสียดอกเบี้ยค่ะ ทั้งนี้ก็ควรระวังการใช้เงินเกินตัวค่ะ เพราะการใช้บัตรเครดิตรูดซื้อของนั้น เงินในกระเป๋าของเรามันไม่ลงลดโดยทันที จึงทำให้หลายๆ ครั้งเราก็เผลอเรอจนกลายเป็นหนี้บัตรเครดิตได้ค่ะ
และนี่ก็คือ 8 วิธีรวยง่ายๆ สไตล์มนุษย์เงินเดือนที่นำมาบอกเล่ากันในวันนี้
ที่มา : K-Expert